เว็บไซต์นี้ได้รวบรวมข้อมูลที่สำคัญในการเทรด อย่างไรให้รวย หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะมีประโยชน์กับท่านที่แวะเข้ามาเยี่ยมชม ขอขอบคุณทุกแหล่งที่มาของข้อมูลที่ปรากฎ อยู่ในเว็บไซต์แห่งนี้
วันอาทิตย์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2554
Download E-Book Elliott Wave
>ทฤษฎี Elliott Wave สร้างขึ้นโดย Ralph Nelson Elliott ซึ่งเขาได้พัฒนามาจากทฤษฎีดาว Down Theory โดยเนื้อหาบทสรุปของทฤษฎีนี้คือ Pattern ของราคาหุ้น , Forex มันจะมีพฤติกรรมเป็นลักษณะลูกคลื่นซึ่งสามารถแจงรายละเอียดในหลักการได้ดังนี้
1. ถ้ามีแรงกระทำย่อมีแรงโต้ตอบ ซึ่งอนุนามในการเล่น forex คือ เมื่อ ราคา forex มีขึ้น มันก็ต้องมีลงและเมื่อมันถึงจุดนึงแล้ว มันก็พร้อมจะขึ้นในรอบต่อไป ซึ่งภาษาที่นักวิเคราะห์หุ้นทั้งหลายเขาเรียกว่า ราคารีบาวน์ (Rebound) และราคาปรับฐาน(Retrace)
2. Elliott Wave ประกอบด้วยลูกคลื่นในขาขึ้น 5 ลูก (1-2-3-4-5) และลูกคลื่นขาลง 3 ลูก (a-b-c) ในขาขึ้นเราเรียกว่า Impulse ส่วนขาลงเราเรียกว่า Correction
3.ในหนึ่งรอบหรือ Cycles ของ Elliott Wave นั้นจะเป็น Series ของ Impulse และ Correction
... จากนิยามข้างต้นสามารถแสดงด้วยกราฟดังด้านล่าง และแนะนำว่าคุณต้องจำ Pattern นี้เอาไว้ให้แม่นยำ wave 1-2-3-4-5-a-b-c
จากกราฟจะเห็นว่าจุดสูงสุดของรอบจะอยู่ที่คลื่นที่ 5 ส่วนจุดเริ่มต้นคือคลื่นลูกที่ 1 ในช่วงที่ราคา Forex เป็นขาขึ้น การขึ้นยังไม่มีแรงเท่าที่ควร เพราะนักลงทุนหรือนักเล่นหุ้นหรือเล่นฟอเร็กซ์ต่างคอยดูเชิงซึ่งกันและกัน ราคา Forex ก็จะไต่ขึ้นมาที่คลื่นลูกที่ 1 หลังจากนั้น ก็จะมีนักเล่นหุ้นบางกลุ่มที่คอยจังหวะขายหุ้นโดยที่หวังกำไรไม่มากนัก หรืออย่างน้อยก็ขาดทุนไม่มากทำให้หุ้นปรับฐาน(Retrace) ลงมาเล็กน้อยที่คลื่นลูกที่ 2
หลังจากที่ราคาหุ้น, Forex ได้ปรับฐานมาที่คลื่นลูกที่ 2 แล้ว ในช่วงนี้เอง Volume การซื้อขายเริ่มมากขึ้นทำให้นักเล่นหุ้น นักเล่นฟอเร็กซ์อื่นๆมองเห็นแนวโน้มทิศทางของของหุ้นตัวนี้จึงเริ่มเข้าซื้อหุ้นด้วย Volume ที่มาก ทำให้ราคาปรับตัว Rebound สูงมากขึ้น โดยทฤษฎ๊แล้ว คลื่นลูกที่ 3 จะเป็นคลื่นที่สูงที่สุด
ราคาForex ปรับตัวมาที่คลื่นลูกที่ 3 ทำให้นักเล่นฟอเร็กซ์ มีกำไรเป็นกอบเป็นกำจึงเริ่มทะยอยขายหุ้นออกมา ราคาก็เริ่ม retrace มาที่คลื่นลูกที่ 4 การปรับฐานของราคาฟอเร็กมาที่คลื่นลูกที่ 4 นี้ เหมือนว่ามันน่าจะหยุดขึ้นต่อไป แต่ทั้งนี้ยังมันักเล่นหุ้นบางกลุ่มที่ตกขบวนรถไฟและยังมีความเชื่อว่าหุ้นตัวนี้สามารถวิ่งต่อได้จึ่งไล่เข้าซื้ออีกรอบหนึ่ง ทำให้ราคาสามารถวิ่งต่อไปได้จนถึงคลื่นลูกที่ 5 แต่โดยพฤติกรรมแล้ว คลื่นลูกที่ - เนื่องจากความกล้าๆกลัวๆของนักเล่นหุ้นทำให้ตัดขาย หรือกำไรเพียงเล็กน้อยก็เพียงพอแล้ว
เมื่อราคาปรับตัวมาที่จุดสูงสุดคือคลื่นลูกที่5 แล้ว และมีการขายทำกำไรกันออกมา ทำให้ราคาหุ้นปรับฐาน(retrace)ลงมาที่ คลื่น a การขายรอบนี้นักลงทุนจะประสานเสียงหรือร่วมมือร่วมใจกันขายหุ้นออกมาปริมาณมากหรือบางครั้งเกิด panic เล็กๆ เมื่อราคาหุ้นปรับฐานมาที่คลื่น a นัีกเล่นหุ้นบางคนจะมองว่าราคาหุ้นมันถูกลงจึงเข้าซื้อทำให้ราคาหุ้น Rebound เล็กน้อยไปที่ คลื่นลูกที่ b แต่การขึ้นครั้งนี้มันขึ้นไม่แรงเพราะมันยังไม่สามารถเอาชนะใจคนอื่นๆได้ พอขึ้นไม่แรงก็ขายดีกว่า ทำให้มีการขายหุ้นกันออกมาทำให้ราคาหุ้นปรับฐานลงมาที่ c
หลังจากจบคลื่น c แล้วก็ถือว่ามันครบรอบหรือ cycle ของห้นอย่างสมบูรณ์ ผมขอทวนนะครับ คลื่น Elliott wave ประกอบด้วยคลื่นขาขึ้น (impulse) คลื่นลูกที่ 1-2-3-4-5 ส่วนหุ้นขาลง (Corection) มีคลื่นลูก a-b-c การเข้าใจพฤติกรรมของหุ้นโดยอาศัยหลักการของ Elliott Wave จะทำให้เรารู้สถานะและแนวโน้มของมัน ทำให้เรามีความมั่นใจมากขึ้นในการ Trade
จากที่กล่าวข้างต้นเป็นเพียง basic concept เท่านั้น แต่มันยังมีความซับซ้อนมากกว่านี้ โดยที่หุ้นขาขึ้นลูกที่ 1-2-3-4-5 สามารถรวบเป็นคลื่นลูกที่ 1 และหุ้นขาลง a-b-c สามารถรวบเป็นคลื่นลูกที่ 2 ได้ เช่นกราฟด้านล่าง
การที่หุ้นมันปรับตัว( Rebound ) และ ปรับฐานนั้น (Retrace ) นั้น ถามว่ามันจะขึ้นไปถึงไหน และมันจะลงมาถึงไหน ตรงจุดนี้ทฤษฎีที่อธิบายได้เช่นกันนั้นคือ Fibonacci Number ซึ่งเป็นเนื้อหาที่สามารถเขียนเป็นหนังสือหรือคู่มือเป็นเล่มหนาประมาณ 1 นิ้วได้ ซึ่งผมไม่สามารถนำมาอธิบายในที่นี้ได้ แต่ก็ขอเอาผลของมันมาใช้เลยดีกว่า
Fibonacci Number เป็นตัวเลขที่เกิดขึ้นมาพร้อมกับธรรมชาติ เป็นตัวเลขที่เรียกได้ว่ามหัศจรรย์เลยทีเดียว ตัวเลขที่เราสามารถมาใช้ได้เลยมีดังนี้
แบบทศนิยม แบบเปอร์เซนต์
0.236 23.60%
0.382 38.20%
0.500 50.00%
0.618 61.80%
0.764 76.40%
1.000 100.00%
1.382 138.20%
1.618 162.80%
2.618 261.80%
4.236 423.60%
หลายคนคงพอจะคุ้นเคยกับตัวเลขพวกนี้บ้างนะครับ อย่างน้อยนักวิเคราะห์หุ้นทั้งหลายสังกัดก็นิยม หรือพูดถึงกันมาเช่น หุ้นกำลังปรับฐานลงมาในระดับ 38.20% ซึ่งก็คือแนวรับที่นักวิเคราะห์จะทำนายได้ว่าราคาหุ้นมันมีแนวรับที่ระดับราคาเท่าไหร่ ซึ่งอันที่จริงนักวิเคราะห์ไม่ใช่หมอดูหรือนักคำนวณที่เก่งกาจเท่าไร เพราะเราสามารถใช้โปรแกรมวิเคราะห์ มาใช้ดูแนวรับแนวต้านโดยใช้ tool ได้มากมาย รวมทั้ง Fibonacci ด้วยครับ
เราลองมาดูตัวอย่าง Fibonacci Number ที่ใช้ใน Metatrader 4 กันเลยนะครับ
รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถดาวโหลดได้ทีนี้ครับ Download E-Book Elliott Wave Here
Credit:www.9professionaltrader.blogspot.com Elliott Wave | Forex Trading Blog สอนเทรด Forex - แหล่งศึกษาข้อมูล Forex และสอน Trade Forex แบบมืออาชีพ
Under Creative Commons License: Attribution
บทความที่ได้รับความนิยม
-
ผมว่ามันดูง่ายสุด ๆ เลยนะไปเจอมาและได้ลองแล้ว ทำตามที่บอกแล้วจะกำไรตลอดคับ http://file1.uploadfile.biz/i/MVEXMEIIMXEWWV
-
วิธีการดาวน์โหลดและติดตั้ง MT4 นั้น ถือว่าเป็นโปรแกรมที่เป็นที่นิยม และใช้กันอย่างแพร่หลายมาก โบรกเกอร์ส่วนใหญ่ก็จะใช้โปรแกรมนี้ในกา...
-
วิธี Active บัตร InstaForex Debit Card 1. ตัวอย่างจดหมายที่ได้รับจาก Payoneer ซึ่งเป็นบริษัทที่ออกบัตร InstaForex Debit Card 2. เข้าสู่เว็ปไ...